หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังสนใจในการตลาดออนไลน์ คุณน่าจะเคยได้ยิน … คำว่า SEO และ SEM ทั้งสองคำนี้หมายถึงอะไรมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ? มาหาคำตอบกันเลย
เริ่มต้นที่ SEOหรือ Search Engine Optimization คือการทำการตลาดออนไลน์ด้วยการใช้เทคนิคเพื่อให้เว็บไซต์หรือร้านค้าออนไลน์ของคุณขึ้นไปอยู่บนหน้าแรกหรืออันดับต้นๆของเว็บ Search engine ยอดนิยม (ซึ่งในปัจจุบัน คือ Google) มีเป้าหมายเพื่อช่วยดึงคนให้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น
ข้อดีของ SEO
1.มีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าเพราะสามารถทำเองได้
2.สามารถติดอันดับได้ระยะยาว (หากมีคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ)
3.ไม่เสียค่าใช้จ่าย เมื่อมีคนเข้าชมเว็บไซต์
ข้อเสียของ SEO
1.ต้องอาศัยทักษะและความเชี่ยวชาญ
2.ใช้เวลานานในการขึ้นไปติดอันดับ (4 – 6 เดือน แล้วแต่ความสามารถ)
และอีกหนึ่งวิธีในการทำการตลาดออนไลน์ผ่านเครื่องมือค้นหาบนอินเทอร์เน็ต คือ SEM หรือ Search Engine Marketing ซึ่งเป็นการทำการตลาดผ่านการค้นหาในรูปแบบของการโฆษณา หรือ Search Advertising โดยต้องเสียค่าใช้จ่ายเมื่อมีผู้คน Click เข้าชมเว็บไซต์ ซึ่งเรียกว่า PPC (Pay Per Click)
ข้อดีของ SEM
1.เห็นผลลัพธ์ชัดเจนและรวดเร็ว
2.สามารถทำได้ทันที ไม่ต้องใช้เวลานาน (มือใหม่ก็เรียนรู้ได้)
3.ปรับเพิ่ม Keyword ได้ตลอดเวลา
ข้อเสียของ SEM
1.เสียเงินทุกครั้ง เมื่อมีคนคลิกเข้ามาดูในเว็บไซต์
2.ราคาของการโฆษณาไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับกระแสการแข่งขัน
สุดท้ายแล้ว .. SEO และ SEM มีเป้าหมายเดียวกันคือทำเว็บไซต์ให้ติดอันดับต้นๆและตอบโจทย์คนที่กำลังค้นหา
จะดีกว่าหรือไม่ ? หากคุณสามารถทำทั้งสองอย่างควบคู่กันได้เพื่อผลลัพธ์ที่ดีอย่างยั่งยืนและมั่นคงในระยะยาว