อะไรคือ Brand Perception แล้ว Brand Perception สำคัญอย่างไร ?
brand perception นั่นมีอิทธิพลต่อสินค้าของคุณอย่างเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก หรือ ส่งผลต่อภาพจำของลูกค้าในระยะยาวให้พวกเขาเหล่านั้น loyalty กับตัวแบรนด์เพิ่มขึ้นไปอีก
หากคุณสังเกตุพฤติกรรมการซื้อของ ผ่านสิ่งต่างๆรอบๆตัวคุณ คุณจะพบว่าผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่คุณซื้อนั้นขึ้นอยู่กับว่าคุณรับรู้และรู้สึกกับแบรนด์นั้นอย่างไร
รู้หรือไม่ว่า ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อ โทรศัทพ์ซักเครื่องหรือ การเดินเข้าร้านค้าซักร้านนั้น เกิดขึ้นมาจากการที่ แบรนด์ต่างๆเหล่านั้น ได้สร้าง Brand Perception ให้คนจดจำ สินค้า หรือตัวตนของแบรนด์ของเขาแทบจะทั้งสิ้น และทั้งหมดนี้เชื่อมโยงกับ ความคิดและความรู้สึกของคุณที่มีต่อแบรนด์นั่นๆด้วยเช่นเดียวกัน
อิทธิพลจากการรับรู้ถึงแบรนด์ส่งผลให้ ผู้บริโภคประมาณ 77% ยอมรับว่า ตนตัดสินใจซื้อสินค้าเหล่านั้นโดยเลือกจากชื่อแบรนด์เพียงเท่านั้น!
Brand Perception เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้แบรนด์ของคุณนั้นถูกเลือกในตลาดที่มีการแข่งขันสูงอีกด้วย
Brand Perception คืออะไร?
Brand Perception เป็นจุดที่แบรนด์ของคุณไปแตะความคิดและความรู้สึกของลูกค้าและภาพจำเกี่ยวกับแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ และบริการ เป็นการตัดสินใจแรกโดยพิจารณาจากประสบการณ์ของลูกค้าที่มีต่อสินค้าและตัวแบรนด์ ว่าพวกเขาเหล่านั้นรู้สึกอย่างไรกับแบรนด์ทุกครั้งที่จะทำการซื้อหรือพยายามเลือกระหว่างผลิตภัณฑ์คู่แข่ง และเพื่อช่วยเพิ่มการรับรู้ ลูกค้าส่วนใหญ่จะหาข้อมูล อ่านรีวิว เปรียบเทียบตัวเลือกสินค้า หรือพูดคุยกับพนักงานขาย ก่อนจะตัดสินใจซื้อสินค้าเหล่านั้น
หากลูกค้าของคุณนึกถึงแบรนด์ของคุณเป็นอันดับแรกหล่ะก็ พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะ loyalty ต่อแบรนด์ของคุณมากขึ้น
ตัวอย่าง ผู้คนมีพฤติกรรมอย่างไรเมื่อพูดถึง Apple และ iPhone การรับรู้ที่ผู้บริโภคมีต่อ iPhone สร้างมูลค่าให้กับผู้ที่เป็นเจ้าของ เมื่อกลุ่มลูกค้าเหล่านั้น loyalty ต่อแบรนด์ 66% จะพูดในเชิงบวกเกี่ยวกับแบรนด์ในโลกออนไลน์ และ 86% จะแนะนำแบรนด์นี้ให้กับครอบครัวและเพื่อนๆอีกด้วย ช่วยเพิ่มโอกาสที่แบรนด์ของคุณจะเติบโตนั่นเอง
How to define brand perception: ถ้าอย่างนั้นจะนิยาม brand perception อย่างไรดี?
เมื่อคุณรู้ว่าเหล่า audience มีมุมมองต่อแบรนด์ของคุณอย่างไร
คุณก็สามารถเริ่มสร้างชื่อเสียง ค้นหากลุ่มเป้าหมาย และเพื่อให้แน่ใจว่า ลูกค้าของคุณรู้ว่าจุดไหนที่ทำให้แบรนด์ของคุณแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ เมื่อหาเจอจุดนี้แล้วก็ยังสามารถลงทุนในการสร้างแคมเปญเพื่อเข้าถึงลูกค้าได้ตรงจุดขึ้นอีกด้วย
ที่นี้มาดูกันว่ามีองค์ประกอบอะไรบ้างที่จะช่วยให้แบรนด์ของคุณนั้นสร้างการรับรู้และจดจำต่อกลุ่มลูกค้าได้
Emotional อารมณ์ความรู้สึก
อารมณ์และความรู้สึกนั้นจะเกิดขึ้นได้จากการเชื่อมโยง ลูกค้าของคุณมาสู่แบรนด์ของคุณผ่านโฆษณาหรือสื่อต่างๆ ตัวอย่าง โฆษณา ประกันชีวิต ที่เชื่อมโยงอารมณ์ความรู้สึกของผู้ชมที่เมื่อรับชมแล้ว และส่งผลให้กลุ่มคนเหล่านั้นจดจำ แบรนด์ของเขาได้ เมื่อผู้คนนึกถึง การทำประกันชีวิต แบรนด์ๆนั้นก็จะผุดขึ้นมาในหัวของพวกเขาเป็นอันดับแรก แล้วคุณหล่ะมีแบรนด์ไหนที่เชื่อมโยงกับอารมณ์ความรู้สึกของคุณบ้าง
Visual ภาพลักษณ์
แม้ว่าเราจะถูกสอนว่าอย่าตัดสินหนังสือจากปก แต่เราก็มักจะทำอย่างนั้นอยู่เสมอ วิธีที่ลูกค้ารับรู้แบรนด์ของคุณก็ได้รับอิทธิพลแทบจะทันทีจากภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่คุณสร้างขึ้นด้วยเช่นกัน
ตัวอย่าง Apple ที่สร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เรียบง่าย และนั่นกำหนดตีมทั้งหมดของแบรนด์รวมไปถึงสินค้าและบริการต่างๆในร้านค้าของ Apple store
ภาพลักษณ์ในด้านของสี สีของแบรนด์ color id ที่คุณเลือกนั้นก็สามารถส่งผลต่ออารมณ์และการรับรู้ของผู้คนได้เช่นเดียวกัน สีนั้นสำคัญมากๆ ต่อมนุษย์ทุกคนก็เพราะ คนเรามักจะเชื่อมโยงสี สีนึงกับของหรือความรู้สึกต่างๆ กันไป แต่อย่างไรก็ตาม มันมักจะมีความรู้สึกบางอย่างที่เกิดขึ้นร่วมกัน หรือพูดได้ว่ามนุษย์เราจะมีความรู้สึกแบบเดียวกันเมื่อเห็นสีสีเดียวกัน และด้วยความที่มีจุดร่วกัน ระหว่างสีกับมนุษย์นี้ ทำให้เกิดเป็นจิตวิทยาสีขึ้นมานั่นเองและแบรนด์หลายๆแบรนด์ก็เลือกคาเรคเตอร์ต่างๆของสีมากำหนดคาเรคเตอร์ของแบรนด์ด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้น การสร้าง visual ของแบรนด์ด้วยสี ก็เป็นการกำหนดภาพลักษณ์ให้คนจดจำคาเรคเตอร์ของแบรนด์ได้ดีอีกด้วย
Personality
Personality ของแบรนด์ มีอิทธิพลต่อการรับรู้แบรนด์ได้เช่นกัน จะขออธิบายด้วยตัวอย่างเลยแล้วกัน จะได้เห็นภาพตามกันชัดขึ้น
ตัวอย่าง แบรนด์น้ำหอม Miss Dior จีซู Blackpink เป็นBrand Ambassador ทำให้เรานึกภาพตามได้ทันทีว่ามีความหวาน มีความลูกคุณหนู แม้จะไม่เคยเห็นสินค้าหรือเคยดมกลิ่นมาก่อน
Brand Personality มีหลายทฤษฏีให้นักการตลาดเลือกใช้ตามที่ที่เหมาะกับตัวเอง แต่กลุ่มลูกค้ามักจะซื้อสินค้าที่
คล้ายกับตัวตนของตัวเอง หรือมีบางอย่าง Relate กับพวกเขาได้
การใช้ Brand Ambassador ก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะพรีเซ็นความเป็น Personality ได้ดี ยกตัวอย่างแบรนด์ดัง 4 แบรนด์ดัง อย่าง chanel, saint laurent, Dior ,celine เสื้อผ้าแบรนด์เนม แต่มีสไตล์ที่แตกต่างกัน มาเชื่อมโยงกับคาเรคเตอร์ที่แตกต่างกันของสาวๆ Blackpink ซึ่งการเลือกเมมเบอร์ Blackpink มาช่วยสื่อสารทั้งความเป็นแบรนด์และเพิ่มความนิยม ก็เป็นการสร้าง Personality ของแบรนด์ให้เป็นที่น่าจดจำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
Senses
การใช้ประสาทสัมผัสเข้ามาผูกหรือเกี่ยวข้องกับการรับรู้ของแบรนด์ก็ช่วยให้เกิดการจดจำได้ดีเช่นเดียวกัน ประสาทสัมผัสทั้ง รูป รส กลิ่น เสียง นั้นก็ช่วยให้เกิดภาพจำ ที่จริงแล้วเรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับอารมณ์ความรู้สึกและVisual ที่พูดถึงก่อนหน้านี้ด้วยเช่นเดียวกัน
ตัวอย่างเช่น ถ้าเรานึกถึงบาบิก้อน นอกจากมังกรตัวเขียวๆแล้วเราก็ยังนึกถึงน้ำจิ้มของเขาอีกด้วยใช่มั้ยหล่ะ เป็นเอกลักษณ์ที่ตัวแบรนด์ตั้งใจสร้างขึ้นให้คนจดจำได้จากรสชาติ หรือในด้านของกลิ่น ที่ไม่ว่าจะเดินเข้า Chanel กี่ช็อปก็จะได้กลิ่นน้ำหอม Chanel No.5 เป็นกลิ่นที่ทำให้คนนึกถึงและจดจำเรียกได้ว่าอยู่คู่แบรนด์เลยก็ว่าได้ มาต่อกันที่การรับรู้และจดจำแบรนด์ในรูปแบบของเสียง (jingles และ sound signatures) “กินอะไร กินอะไร กินอะไร ไปกิน…MK” ถ้าขึ้นประโยคว่ากินอะไรหลายคนก็คงใส่ทำนองและร้องต่อได้แบบอัตโนมัติเลยใช่มั้ยหล่ะ หรือ
“หิวเมื่อไรก็แวะมา…7-11” ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนเราก็ยังนึกถึงเสียงเหล่านี้และนึกถึงชื่อแบรนด์ที่ตามมาในหัวได้ทันที นั่นก็เพราะการสร้าง brand perception ให้เราจดจำแบรนด์ของเขาในรูปแบบของเสียงนั่นเอง แถมอีกนิด ถ้านึงถึงรถไอติมระดับตำนาน นอกจากเสียงเพลงที่เราคุ้นเคยแล้ว ก็ยังมีคาเรคเตอร์ของการที่เราออกไปวิ่งตามรถไอติมสีแดงที่ไม่เคยจะทัน จนแบรนด์เองก็ยังเคยออกแคมเปญมาแซะตัวเองก็ทำมาแล้ว นึกออกแล้วใช่มั้ยหล่ะ ว่าแบรนด์อะไร อันนี้ก็ไม่แน่ใจว่าทางแบรนด์เองต้องการสร้างคาเรคเตอร์แบบนี้ให้คนจดจำหรือเป็นเพราะว่าคนขับรถไอติมขับเร็วเองกันแน่ แต่ที่แน่ๆ จุดเล็กๆน้อยๆเหล่านั้นสร้างให้แบรนด์เป็นที่จดจำและถูกพูดถึงนั่นเอง
ทำไม brand perception ถึงสำคัญ
พูดง่ายๆ ก็คือ การทำความเข้าใจว่าลูกค้ารับรู้แบรนด์ของคุณอย่างไร และสร้างสิ่งต่างๆบนพื้นฐานจากที่พูดมาข้างต้น เพื่อที่จะเข้าถึงการรับรู้ของกลุ่มลูกค้า และเมื่อbrand perceptionของคุณชัดเจนและโดเด่น นั่นก็จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณกำลังสร้างการเชื่อมต่อแบรนด์ของคุณกับลูกค้าที่ถูกต้อง ทุกๆแบรนด์ต้องการให้ลูกค้ามีทัศนคติเชิงบวกต่อพวกเขาทันทีที่นึกถึงอยู่แล้วใช่มั้ยหล่ะ ยิ่งลูกค้าของคุณรู้สึกดีเกี่ยวกับแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ และการบริการของคุณมากเท่าไร ก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้นเท่านั้น ว่าพวกเขาจะเลือกซื้อสินค้าหรือบริการของคุณอย่างแน่นอน การกำหนด brand perception ที่ชัดเจนมีเอกลักษณ์ หมายความว่าคุณกำลังเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์หรือสินค้าของคุณ
ลูกค้าที่ได้รับอิทธิพลจากคุณค่าของ brand perception ที่ชัดเจนมีเอกลักษณ์นี้ มักจะซื้อสินค้าของคุณซ้ำแล้วซ้ำอีก แม้ว่าจะมีผลิตภัณฑ์อื่นๆหรือแบรนด์อื่นๆ ที่มีราคาถูกกว่าก็ตาม
นอกจากนี้ยังหมายความว่าคุณมีแนวโน้มที่จะดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ มายังธุรกิจของคุณเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากลูกค้า 60% แนะนำครอบครัวและเพื่อนๆ ให้รู้จักกับแบรนด์ที่พวกเขาชื่นชอบ การตลาดแบบปากต่อปากมีประโยชน์อย่างมากเช่นเดียวกัน
brand perception คือวิธีที่คุณดึงดูดผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า สร้างโอกาสในการสร้างผู้สนับสนุนแบรนด์ และแม้แต่ทำให้ตัวเองแตกต่างและโดนเด่นจากคู่แข่ง ในบางสถานการณ์การรับรู้แบรนด์ในเชิงบวกอาจส่งผลต่อการเติบโตในองค์กรของคุณอีกด้วย
เพราะการถูกจดจำที่ดีนั้น อาจจะเป็นการส่งเสริมให้นักลงทุนที่อยากจะเข้ามาแสวงหาโอกาสกับบริษัทหรือแบรนด์สินค้าใหม่ๆหาคุณเจอก็เป็นได้